ป้ายกำกับ: มอเตอร์ ac

  • ข้อดีและข้อเสียของมอเตอร์ AC กับ DC

    ข้อดีและข้อเสียของมอเตอร์ AC กับ DC

    ประตูรีโมท คือ นวัตกรรมที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมในยุคปัจจุบัน หลายบ้านปรับเปลี่ยนประตูรั้วแบบเดิมมาเป็นประตูรีโมท เพื่อความสะดวกในการเข้าออก รวมทั้งยังมีความปลอดภัยในการใช้งานด้วยและสามารถเลือกรูปแบบของประตูได้ตามความต้องการ ในส่วนของการควบคุมประตูก็จะมีมอเตอร์ที่ขับเคลื่อนให้ประตูเข้าออก และสั่งการผ่านรีโมท

    ข้อดีและข้อเสียของมอเตอร์ AC กับ DC มีอยู่ด้วยกัน ดังนี้

    มอเตอร์ AC จะเป็นระบบที่สามารถเดินไฟบ้านเข้ามอเตอร์ได้โดยตรง และมีหลายรูปแบบให้เลือกรวมทั้งขนาดก็จะมีความแตกต่างกันด้วยจะเริ่มต้นที่ 500 กิโลกรัม ถึง 2,000 กิโลกรัม โดยขนาดแรงดันไฟฟ้าจะอยู่ที่ 220 Volt 50 Hz

    ข้อดีของมอเตอร์แบบ AC คือ มีกำลังแรงบิดที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ใช้แรงดันไฟฟ้าสูงเช่นเดียวกันโดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมใช้กับประตูบานใหญ่ที่มีน้ำหนักเยอะ

    ข้อเสีย คือ หากไฟฟ้าดับประตูที่ใช้มอเตอร์แบบ AC ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ เพราะเป็นการเชื่อมระบบไฟตรงเข้ามอเตอร์

    มอเตอร์ DC นิยมใช้กับประตูรีโมทตามบ้านเรือนมากที่สุด ขนาดน้ำหนักจะอยู่ที่ 500 กิโลกรัม ถึง 1,000 กิโลกรัม ระบบการเชื่อมต่อวงจรไฟฟ้าจะเชื่อมจากไฟบ้านเข้าสู่แบตเตอรี่ในตัวมอเตอร์ แม้ว่าไฟดับมอเตอร์ก็ยังสำรองไฟในแบตเตอรี่ใช้ได้สูงสุดถึง 200 ครั้ง

    ข้อดี มีระบบสำรองไฟในตัวเหมาะกับการใช้งานตามบ้านเรือนทั่วไป ใช้แรงดันไฟฟ้าต่ำช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่ามอเตอร์แบบ AC 5.5 ถึง 24 volt DC

    ข้อเสีย มอเตอร์ DC ราคาสูงกว่าระบบ AC การดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์ค่อนข้างที่จะละเอียดกว่ามอเตอร์ในแบบ AC

    บริการติดตั้ง ซ่อม ประตูรีโมท มอเตอร์ประตู บริการถึงบ้านภายใน 1 ชม. ทั่วกทมและปริมณฑล
    ประกันงาน ซ่อม 3 เดือน งานติดตั้ง 1 ปี
    โดยบริษัทที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี
    ประตูรีโมทมีปัญหา Pa2remote.Com ยินดีให้คำปรึกษาฟรีโดยช่างที่มีคุณภาพ

    โทร : 0952062066
    Line : @Patwo
    Email : Pa2remote@Hotmail.Com

  • มอเตอร์ชนิด AC กับ DC ต่างกันอย่างไร?

    มอเตอร์ชนิด AC กับ DC ต่างกันอย่างไร?

    ผู้ที่ติดตั้งประตูรีโมทไว้ภายในบ้าน เคยสงสัยไหมว่ามอเตอร์ AC และมอเตอร์ DC นั้นมีการทำงานที่แตกต่างกันอย่างไร เนื่องจากว่าในปัจจุบัน ประตูไฟฟ้า กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก มีผู้เลือกใช้งานเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินภายในบ้าน รวมถึงความสะดวกในการเข้าออกประตู ดังนั้น เราจึงมาอธิบายรายละเอียดของมอเตอร์ประตูรีโมท เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้น สำหรับผู้ที่มีแพลนกำลังจะติดตั้งประตูรีโมทไว้ใช้งาน

    มอเตอร์ AC ของประตูรีโมท คือ มอเตอร์ที่มีแรงดันไฟฟ้าชนิด AC ขนาด 220 Volt 50 Hz ซึ่งมอเตอร์ชนิดนี้หากถูกนำมาใช้กับประตูรีโมท จะสามารถให้แรงบิดสูงจำนวนหลายเท่า ซึ่งมากกว่ามอเตอร์ DC เป็นจำนวนมาก มอเตอร์ชนิดนี้ให้แรงดันไฟฟ้าที่ค่อนข้างสูงมาก โดยส่วนใหญ่แล้ว มักถูกนำไปติดตั้งเข้ากับประตูรีโมทที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และน้ำหนักมาก จึงจำเป็นจะต้องใช้มอเตอร์ประตูรีโมท ที่ให้แรงบิดค่อนข้างสูง ในการขับเคลือนประตูไฟฟ้านั่นเอง โดยมอเตอร์ AC นั้น สามารถรองรับน้ำหนักของประตูได้ตั้งแต่ 600 กิโลกรัม ไปจนถึง 3,500 กิโลกรัมเลยทีเดียว

    มอเตอร์ DC คือ มอเตอร์แรงดันที่มีขนาดน้อยกว่ามอเตอร์ AC เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำลังมอเตอร์ที่สามารถขับเคลื่อนประตูได้อย่างนิ่มนวล สามารถรองรับน้ำหนักของประตูไฟฟ้าได้เพียงแค่ 400 กิโลกรัม ไปจนถึง 500 กิโลกรัมเท่านั้น ด้วยแรงดันที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้มีการหยุดประตูด้วยการเช็ค Overload และมีการติดตั้งระบบ Slowdown เพิ่มขึ้นด้วย เพื่อการใช้งานที่ราบเรียบ ทำให้นิยมใช้กับประตูที่มีน้ำหนักเบานั่นเอง 

    อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมักเกิดความเข้าใจแบบผิด ๆ ขึ้นว่า มอเตอร์ DC นั้นด้วยความที่มีแรงดันต่ำ ทำให้มีความปลอดภัยมากกว่ามอเตอร์ AC ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้ง 2 วงจร ถือว่าให้ความปลอดภัยได้เท่าเทียมกัน หากทำการติดตั้งอย่างถูกวิธี

    บริการติดตั้ง ซ่อม ประตูรีโมท มอเตอร์ประตู บริการถึงบ้านภายใน 1 ชม. ทั่วกทมและปริมณฑล
    ประกันงาน ซ่อม 3 เดือน งานติดตั้ง 1 ปี
    โดยบริษัทที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี
    ประตูรีโมทมีปัญหา Pa2remote.com ยินดีให้คำปรึกษาฟรีโดยช่างที่มีคุณภาพง

    โทร : 0952062066
    Line : @patwo
    Email : pa2remote@hotmail.com

  • สรุปมอเตอร์แบบไหนดีกว่า !!  AC หรือ DC !?

    มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่มีหลักการทำงานเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล ซึ่งการตัดสินใจจะเลือก “มอเตอร์ของประตูโมท” มีหลายปัจจัยที่ต้องให้พิจารณา โดยมีปัจจัยที่สำคัญคือ การใช้งานอย่างต่อเนื่อง ความทนทาน การรับประกัน และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนั่นเอง ซึ่งเจ้าตัวมอเตอร์นั้นมีสองแบบให้ได้ตัดสินใจด้วยกันก็คือ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC และ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC 

    ความแตกต่างของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC และ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC 

    1. แหล่งพลังงาน

    ความแตกต่างของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC และ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC ที่ชัดเจนมากที่สุดคือ แหล่งพลังงานของมอเตอร์ไฟฟ้านั่นเอง มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC จะมีแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าจาก ไฟฟ้ากระแสสลับ และ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC จะมีแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าจาก ไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งส่งผลให้ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC มีความซับซ้อนภายในมากกว่า มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC เนื่องจากต้องคอยอาศัยอุปกรณ์ต่างในการแปลงไฟฟ้ากระแสสลับให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรง จึงทำให้มีอุปกรณ์ภายในมากกว่า มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC

    1. โครงสร้าง

    มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC นั้นจะมีโครงสร้างของอุปกรณ์โดยอาศัยหลักการทำงานของ Brushers หรือ แปรงถ่าน เพื่อการนำกระแสเข้าสู่ตัวแกนของมอเตอร์ เมื่อมีอายุการใช้งานที่มากขึ้นจะทำให้เกิดการสึกหรอได้ แต่ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC ไม่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งทำให้ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC นั้นจำเป็นต้องดูแลรักษามากกว่า และยังต้องคอยเปลี่ยนแปรงถ่านทุก 2-3 ปี อีกทั้งยังมีความซับซ้อนของวงจรหลักมากกว่า มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC อีกด้วย แน่นอนว่าเป็นการส่งผลต่อการซ่อมในระยะยาว

    1. ความเร็ว

    ระบบการควบคุมความเร็วของมอเตอร์จะมีความแตกต่างกัน เนื่องจาก มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC ควบคุมความเร็วโดยระบบ Frequency (ระบบความถี่) แต่มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC จะควบคุมโดยใช้ระบบ Pulse (ระบบสัญญาณ) จึงทำให้การควบคุมสามารถควบคุมได้ง่ายกว่า ทั้งการเพิ่มความเร็ว และการชะลอความเร็วนั้นทำได้ดีกว่า เนื่องจากการตอบสนองของระบบ Pulse นั้นไวกว่า ระบบ Frequency ความนุ่มนวลของ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC จึงมีมากกว่า 

    1. ความเหมาะสม

    เนื่องจากประตูแต่ละแบบนั้นมีขนาดและน้ำหนักไม่เท่ากัน ความเหมาะสมของขนาดและน้ำหนักของประตู จึงเป็นปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย เช่น มอเตอร์ที่เหมาะกับ ประตูที่มีความกว้างไม่เกิน 8 เมตรหรือน้ำหนักไม่เกิน 2,000 kg. ควรเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC เพราะให้แรงบิดน้อยกว่ามอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC จะเหมาะกับน้ำหนักประตูที่เบา-กลางเท่านั้น แต่ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC จะใช้ได้กับประตูทุกๆขนาด

    1. ความถี่ในการใช้งาน

    ลักษณะการใช้งานสำหรับการเปิด-ปิดที่บ่อยครั้ง เช่นทางเข้าหลักหรือทางเข้าของโครงการหมู่บ้าน ที่ต้องมีการเปิด-ปิดบ่อยครั้ง จึงทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC ทำได้ดีกว่ามอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC เพราะไม่เกิดความร้อนสะสมในขณะทำงาน ทำให้ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง การใช้งานตัวมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC อย่างต่อเนื่องนั้นทำให้เกิดความร้อนสะสมที่ขดลวดในมอเตอร์ เมื่อมีอุณหภูมิที่ร้อนมากจนถึงขีดจำกัดของจุดตัด มอเตอร์ก็จะไม่สามารถทำงานได้ต้องรอให้อุณหภูมินั้นต่ำลงจึงจะสามารถใช้งานต่อได้

    1. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC จะมีการติดตั้งแบตเตอรี่สำรองไว้ภายในสินค้า ซึ่งทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก 1-2 ปีและถ้าหากมีน้ำหนักประตูที่มาก ก็จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ที่ใหญ่มากยิ่งขึ้น และปัญหาที่พบบ่อยคือ แบตเสื่อม และทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้

    มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC และ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC มีความต่างกันไม่ว่าจะเป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน ความเร็ว ความนิ่มนวลของการทำงาน โครงสร้างของมอเตอร์ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ DC นั้นจะมีความซับซ้อนกว่ามากทั้งในด้าน Hardware และ Software ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตัดสินใจ ที่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในด้านการใช้งานว่าความต้องและความต้องการของการใช้งานเป็นอย่างไร